หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่าสรุป ไอ “Wellveness” ที่กำลังพูดถึงกันนี่มันคืออะไรกันแน่ ผมขออธิบายแบบบ้านๆชิลๆเลยนะครับ

ไอ “Wellveness” ที่กำลังพูดถึงกันนี่มันคืออะไรกันแน่

ผมขออธิบายแบบบ้านๆชิลๆเลยนะครับ

มา....เริ่ม!!!

ที่นี่จะประกอบด้วย "3อย่าง" ที่โครตจะสำคัญ

เพราะมันคือหลักสูตรความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืนจริงๆ ผ่านประสบการณ์การบริหารของผมมา13ปี

“สินค้าดีย์ ระบบดีย์ และเจ้าของแมร่งต้องโครตเอา“

สินค้าดีย์...ดียังไง ทุกท่านลองฟังว่ามันจะเป็นไปได้ไหม

-เรามีโรงงานเป็นของตัวเอง

-เรามีคุณอีฟเป็นทั้งเจ้าของและ r&d

-เรามีประสบการณ์ผลิตสินค้ามากกว่า30ล้านชิ้น

-เรามีรีวิวจากสินค้าที่เคยขายมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน

พอยัง...???

ถ้ายังไม่พอ...งั้นผมขอไปต่ออีกนิดครับ

ที่ผ่านมาเราผลิตสินค้าดี...ดีคือดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วครับด้วยข้อจำกัดทางด้านราคา ขนาด EVE'S ยังดีขนาดนี้ แล้วที่ Wellveness ล่ะ ถ้ามันเปิดเพดานราคา ให้มันสามารถอัดสารสกัดเพิ่มมากขึ้นได้อีกมันจะดีขนาดไหน โครตโม้อ่ะ เอาดิ้!!! แต่เรื่องนี้ผมขอโม้หน่อยแล้วกัน!!

ฉะนั้น...สินค้าทุกตัวที่ Wellveness จะพรีเมี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม ย้ำคำว่า“พรีเมี่ยม” อีกครั้งนะครับ

และแน่นอนครับ สินค้าพรีเมี่ยม...ราคาย่อมสูงขึ้น

แต่ผมจะทำให้ดูว่าราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วมันคุ้มค่าแค่ไหน แค่ผมพูดคงไม่ได้ ทุกท่านต้องลองเองด้วย (อิอิ แอบขายด้วย)

อีกหนึ่งประเด็นที่ผมโครตมั่นใจว่าคุณจะได้ใช้สินค้าที่ดีมากๆๆอย่างแน่นอนด้วยความเป็น r&d ที่มีประสบการณ์และซื่อสัตย์ของคุณอีฟที่ไม่สามารถทรยศอุดมการณ์ความเป็น r&d ของตนเองได้

และขอสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันเลย...คืองบการตลาด

ปกติแล้วทั่วๆไปจะใช้อยู่ที่ประมาณ 20-30%ของยอดขาย ผมขอตัดออกเหลือแค่5-10%

ที่เหลือเอาไปยัดลงที่สินค้าให้หมดด!!!

เพราะผมคิดว่า ถ้าสินค้ามันดี คนใช้นี่แหละจะเป็น

”การตลาดที่บริสุทธิ์“ให้เอง อันนี้ผมพูดในการวางแผนการเงินในระบบนะครับ

แต่ถ้าผมต้องเติมเงินของตัวเองในการใส่การตลาดนอกระบบผมก็พร้อมอีก!!! ถ้าเวลามันได้จริงๆ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือไม่มีเงิน พล่ามมมม!!!!

อ่ะ...พอเข้าใจเรื่องของสินค้าที่ wellveness แล้วนะครับ ว่ามันจะประมาณนี้แหละ รอบหน้าผมจะมาขยายความ

ของคำว่า ”ระบบดีย์ กับ เจ้าของต้องโครตเอา”

ว่าสำคัญยังไงต่อคำว่า “มั่งคั่งและยั่งยืน”

รอติดตามนะครับ