เมื่อสำนักข่าวมีปัญหา...ผมลง(ทุน)เอง

ถอดรหัส Wellveness แบรนด์ธุรกิจยุคใหม่กับเป้าหมายยอดขายรวม 5,000 ล้านบาท ในปี 2570 บนจุดยืนการเป็นผู้เปลี่ยนโลกธุรกิจ
และอยากเห็นผู้บริโภคใช้สินค้าคุณภาพดี มีรายได้จากสินค้าที่ใช้ผ่านระบบ “fairbiz”เปลี่ยนพฤติกรรมการขายในโลกปัจจุบัน
แบรนด์ธุรกิจ Wellveness เกิดจากการก่อตั้งของ
ณัฐพล คงสุวรรณ์ และ วลัยพรรณ รัศมี 2 ผู้บริหารแบรนด์อีฟส์ ที่่มีประสบการณ์ในวงการสกินแคร์มามากกว่า 13 ปี และสร้างยอดขายมาแล้วหลายพันล้านบาท ที่อยากเปิดโอกาสให้คนไทยมีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนไทยจะมีโอกาสสร้างรายได้จากการเข้ามาของอินเทอร์เน็ตและการค้าขายบนออนไลน์
แต่ปัจจุบันการแข่งขันบนโลกออนไลน์สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงาน และสร้างตัวตน ซึ่งในโลกของความเป็นจริง มีผู้คนมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่สามารถสร้างสรรค์และแข่งขันในตลาดนี้ได้ และยังส่งผลกระทบมากต่อระบบตัวแทนแบบ Single level marketing เนื่องจากใช้เงินทุนสูงในการเติบโต ทำให้ตัวแทนไม่สามารถขายสินค้าได้ ซึ่งระบบนี้กำลังทดถอยและจะหายไปในไม่ช้า
แน่นอนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่อยากใช้สินค้าที่มีคุณภาพ และหากมีรายได้จากสินค้าที่ใช้ด้วยก็เป็นเรื่องที่ดี คุณณัฐพลและวลัยพรรณจึงมุ่งหวังจะช่วยเหลือผู้ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตัวเองทำ ทั้งแม่ค้าออนไลน์และออฟไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้ ผ่านโอกาสในธุรกิจจำหน่ายสินค้าพรีเมียมบนระบบ fairbiz ที่มีความยุติธรรมในแบรนด์ Wellveness วางกลยุทธ์ทางธุรกิจมุ่งเน้นสร้างคนและฐานลูกค้าจากผู้ใช้สินค้าจริง ที่ใช้สินค้าดีและบอกต่อ เน้นความสัมพันธ์และความจริงใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของทุกคน
แล้ว Wellveness วางระบบ
ให้มีความยุติธรรมและยั่งยืนอย่างไร???
ระบบที่ว่านี้ คุณณัฐพลเรียกว่า Fairbiz เป็นระบบที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ บน 3 หัวใจหลัก คือ สินค้าดี ระบบดี และวัฒนธรรมองค์กรแห่ง “การให้” ทำให้ระบบนี้ยั่งยืน โดยนำข้อดีของ 2 ระบบใหญ่มารวมกัน ได้แก่
1. ระบบตัวแทนจำหน่ายแบบ Single level marketing ให้ทุกคนสามารถซื้อสินค้าในราคาเดียวกันและจำหน่ายในราคาเดียวกัน ไม่ต้องลงทุนสูง ป้องกันปัญหาการตัดราคา ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์ยังให้ตัวแทนสะสมยอดสั่งซื้อสินค้า เพื่อรับรายได้กำไรขายปลีกเพิ่มจากบริษัททุกเดือนอีกด้วย
2. ระบบตัวแทนแบบ Multi level marketing หรือ MLM ที่เรียกว่า binary เป็นการนำเฉพาะรูปแบบการจ่ายรายได้ที่มีความยุติธรรมและยั่งยืนเท่านั้น ที่นำมาปรับใช้ให้ตัวแทน ผ่านการแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพ และ เมื่อลูกค้าได้ใช้สินค้าดีมีคุณภาพ เกิดผลลัพธ์จากสินค้า จะกลับมาซื้อซ้ำ ผู้บริโภคสามารถสมัครตัวแทนได้ และสั่งซื้อผ่านระบบได้ทันที
ซึ่ง 2 ระบบนี้ตัวแทนทุกคนจะมีรายได้สูงสุดถึง 7 ช่องทางเลยทีเดียว
และสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของระบบนี้คือวัฒนธรรมองค์กรแห่ง “การให้” และการให้ที่ดีที่สุดคือการให้ “โอกาส” เพราะลูกค้าที่ประทับใจในสินค้า ใช้แล้วชอบ อยากบอกต่อ และมีโอกาสต่อยอดสู่การทำเป็นอาชีพ ไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้
มากไปกว่านั้น จุดแข็งอีกข้อหนึ่งของระบบนี้คือ “ระบบหลังบ้านที่สมาร์ท สะดวก สบาย” ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ตัวแทนสามารถจะเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ การคีย์ออเดอร์ การสั่งซื้อผ่านมือถือ รวมถึงระบบจัดส่งสินค้า Fulfillment ที่ทำให้ตัวแทนไม่ต้องส่งสินค้าด้วยตัวเอง
นับเป็นครั้งแรกของวงการระบบตัวแทนและออนไลน์ ที่นำระบบนี้มาเปลี่ยนโลกธุรกิจและการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนร่วมกัน
สิ่งสำคัญที่เป็นจุดแข็งของธุรกิจ Wellveness ที่ทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงก็คือประสบการณ์การผลิตสินค้าในวงการสกินแคร์ที่มามากกว่า 13 ปี มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองที่ผลิตสินค้ามากกว่า 40 ล้านชิ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และประกอบกับประสบการณ์ของคุณวลัยพรรณในฐานะนักวิจัยและพัฒนา (R&D) ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคมั่นใจในเรื่องของการผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ พร้อมควบคุมราคาให้เข้าถึงได้ง่าย ลูกค้าสามารถซื้อซ้ำได้อย่างแน่นอน
Wellveness เลือกสินค้าในหมวดหมู่ของสกินแคร์มาเปิดตัวเป็น 2 ตัวแรก ภายใต้ชื่อแบรนด์ลูกที่ชื่อ CUCUMIS ประกอบด้วย
1.CUCUMIS Ampoule Serum แอมพูลเซรั่มบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย โดยใช้นวัตกรรมในการนำส่งสาระสำคัญซึมเข้าสู่ผิว ด้วยสารสกัดเข้มข้นอนุพันธ์ของ Vitamin C ที่มีความเสถียรสูง ในรูปแบบ Niosome Encapsulation
2.CUCUMIS Cerabright Barrier Serum in Cream เซรั่มอินครีมที่มีเซราไมด์เป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น และผิวแข็งแรง ประกอบด้วย Caramide Complex 5 ชนิด ช่วยเสริมสร้างเกาะป้องกันผิว กักเก็บและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม BRIGHT Oléoactif® สารสกัดจากธรรมชาติ 100% ที่ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
พร้อมท้าให้ลองเซ็ตคู่
#กู้ผิวใสใน3วัน และด้วยนวัฒนกรรมด้านสารสกัดที่มีคุณภาพสูง ราคาหลักร้อย ต้้งเป้าหมายเพื่อให้คนไทยได้ใช้สินค้าพรีเมียม ราคาสบายกระเป๋า คุณภาพไม่แพ้เคาท์เตอร์แบรนด์
และในเร็ว ๆ นี้ จะมีสินค้าในกลุ่มสุขภาพเปิดตัวตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ความต้องการของตลาดในอนาคตอีกด้วย
สำหรับทิศทางการสื่อสารกับลูกค้า บริษัทมีช่องทางหลัก และมีกลุ่มตัวแทนจำหน่ายของ Wellveness จำนวน 4,000 คนในตอนเริ่มต้นนี้ ซึ่งคุณณัฐพลและคุณวลัยพรรณ เชื่อว่า การใช้งานของลูกค้าตัวจริง จะเป็นกลยุทธ์การโฆษณาที่ดีที่สุด และการบอกต่อของลูกค้าก็เป็นพนักงานขายที่ดีที่สุดเช่นกัน รวมไปถึงเน้นพัฒนาคนให้เป็นบุคคลที่มีความสามารถในองค์กรเพื่อรองรับการตลาดแบบเต็มรูปแบบที่เตรียมจะเสริมเข้าไปครั้งใหญ่ในปี 2568 นี้ ไปพร้อมกับกลยุทธ์การจัดโปรสินค้าและมีสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง
จะช่วยสร้างกระแสได้ตลอดทั้งปี
Wellveness วางเป้าหมายการเติบโต
ด้านยอดขายในช่วง 3 ปี 6เดือน ดังนี้
ปี 2567 200 ล้านบาท
ปี 2568 600 ล้านบาท
ปี 2569 1,600 ล้านบาท
ปี 2570 2,400 ล้านบาท
บนฐานผู้ใช้งานจำนวน 3-400,000 user
แบ่งเป็นฐานนักธุรกิจ 100,000 user (active 50,000 user) และฐานสมาชิก 200,000 user (active 100,000 user)
นับเป็นแบรนด์ธุรกิจน้องใหม่ที่มากประสบการณ์และน่าจับตามอง เพราะไม่เพียงทำธุรกิจเพื่อจำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองไกลถึงการสร้างโอกาสให้กับคนไทยไปพร้อมกัน